ddd1
ประกาศ
เว็บคาสิโนออนไลน์
อันดับ 1 ในประเทศไทย
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ

รีวิวบาคาร่าออนไลน์อย่างละเอียด เจาะลึกครบทุกซอกทุกมุม!

รีวิวบาคาร่าออนไลน์อย่างละเอียด เจาะลึกครบทุกซอกทุกมุม!

เราต่างเคยได้ยินชื่อเกมไพ่ในตำนานอย่าง บาคาร่ากันมากมายนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งหลายๆ คนอาจมีความเข้าใจว่าบาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่เหมือนการเล่นป๊อกเด้งในวงไพ่ทั่ว ๆ ไป ฝั่งไหนได้แต้มเยอะกว่าก็ชนะไป แต่วันนี้ Lucabetkub จะมาเจาะลึกถึงเกมไพ่ในตำนานอย่างบาคาร่านี้ว่ามันคืออะไร มีกฎกติกาอย่างไร ทั้งกติกาที่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้ว และกฎกติกาที่ซ่อนอยู่ภายในเกม เพื่อให้นักเดิมพันหน้าใหม่ได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับบาคาร่าออนไลน์ได้มากขึ้นกันค่ะ

[ez-toc]

บาคาร่า คืออะไร ?

หนึ่งในสุดยอดเกมวางเดิมพันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งก่อนจะมาได้ชื่อว่าบาคาร่านั้น เดิมทีมันเคยมีชื่อเรียกอื่นก่อนหน้านี้ คือ Punto Banco ที่แปลว่า ‘ผู้เล่น เจ้ามือ’ นั่นเอง ซึ่งเป็นเกมพนันที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ไม่ว่านักเดิมพันหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ยังไงก็ต้องเคยเข้าไปลิ้มลองรสชาติความตื่นเต้นกับเกมนี้กันมาแล้วทั้งนั้น

ซึ่งในปัจจุบันที่ยุคอินเตอร์เน็ตเฟื่องฟูไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยี เราจึงได้นำเกมไพ่บาคาร่านี้เข้ามาอยู่ในแพล็ตฟอร์มออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักเดิมพันมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปคาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่ท่านสามารถเข้าคาสิโนออนไลน์นี้จากที่ไหนก็ได้บนโลกจากมือถือของท่าน

แต่ความจริงแล้วในเกมคาสิโนสดในเว็บไซต์ของเรานั้นมีเกมไพ่มากมายหลากหลายเกม เช่น โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค ฯลฯ แต่เกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเราเป็นเกมไพ่บาคาร่าที่สามารถสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ผู้เล่นภายในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งหากท่านเป็นนักเดิมพันหน้าใหม่ที่กำลังมองหาข้อมูลในการเล่นเกมวางเดิมพัน ทางเราต้องขอแนะนำเกมไพ่บาคาร่าให้แก่ท่านลิ้มรสชาติความตื่นเต้นจากเกมไพ่นี้เป็นอย่างยิ่ง

 

ประวัติความเป็นมาของบาคาร่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ?

เรามาทำความรู้จักเกมไพ่บาคาร่ากันก่อนสักนิด ก่อนที่เราจะนำท่านไปรู้จักกฎกติกาของเกมนี้ ซึ่ง Lucabetkub ได้ทำการสรุปคร่าวๆ ได้ใจความมาให้ท่านแล้วค่ะ

ต้องย้อนกลับไปเมื่อศัตวรรษที่ 15 ที่ประเทศอิตาลี โดยบาคาร่านั้นมีความหมายว่า ศูนย์ ซึ่งถูกเรียกตามกฎของเกมที่ตั้งไว้ว่า ให้ไพ่ที่มีหน้า เช่น K J Q มีค่าเป็นศูนย์นั้นเองค่ะ ต่อมาในศัตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสก็ได้นำเกมไพ่บาคาร่านี้ไปพัฒนาต่อเป็นเกมของตัวเอง โดยได้ตั้งชื่อว่า Chemin de fer แล้วต่อมาในปี ค.ศ. 1950 บาคาร่าก็ได้เริ่มแพร่หลายกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนเข้าไปในคาสิโนในเมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อบาคาร่าได้รับความนิยมมากขึ้น แน่นอนว่าการที่มีผู้เล่นมากหน้าหลายตาเข้ามาเล่นเกมนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการแบ่งห้องในการวางเดิมพันออกไปตามระดับฐานะ สำหรับคนฐานะน้อย กลาง มาก ไปจนถึงมหาเศรษฐี ซึ่งที่จำเป็นต้องแบ่งห้องในการวางเดิมพันออกไปตามระดับฐานะนี้ก็เป็นเพราะว่าทางคาสิโนจะกำหนดระดับของการวางเดิมพันในแต่ละตาไม่เท่ากันนั้นเองค่ะ เหตุผลหลักก็เพื่ออรรถรสในการวางเดิมพัน เพื่อให้นักเดิมพันมีการพูดคุยกันได้อย่างสูสี พูดจาข่มกันไปมาได้แบบสนุกสนาน เข้มข้น จนลามมาถึงคาสิโนออนไลน์เช่นกัน

และถึงแม้ว่าจะผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว แต่เกมไพ่ในตำนานอย่างบาคาร่าก็ยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องไม่มีตก และได้มีการพัฒนาตัวเกมออกไปอย่างหลากหลาย ตามสไตล์ผู้เล่น หรือเพื่อจะได้ไม่ต้องใช้ทักษะมากมายในการวางเดิมพันของผู้เล่นนั้นเองค่ะ

 

การเล่นบาคาร่า บาคาร่าเล่นยังไง

หากจะให้อธิบายให้เข้าใจได้อย่างง่าย ๆ บาคาร่าจะมีการแจกไพ่ให้ฝั่งผู้เล่น (Player) และเจ้ามือ (Banker) ฝั่งละ 2 ใบ โดยจะต้องนำแต้มของทั้งสองใบมารวมกันให้ได้ใกล้เคียงแต้ม 9 มากที่สุด ซึ่งฝั่งไหนมีแต้มใกล้ 9 แต้มมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะไป โดยที่นักเดิมพันไม่ต้องใช้เทคนิคในการคิดวิเคราะห์มากมายในการลงวางเดิมพัน เพียงแค่เลือกลงวางเดิมพันฝั่งใดฝั่งหนึ่งว่าจะชนะเพียงเท่านี้เองค่ะ

นักเดิมพันสามารถเลือกวางเดิมพันได้ทั้งฝั่งผู้เล่น (Player), เจ้ามือ (Banker) หรือ เสมอ (Tie) ก็ได้ ส่วนในเรื่องอื่นๆ ทั้งการจั่วไพ่เพิ่มหรือการคำนวณแต้ม ทางระบบจะทำการคำนวณแต้มให้นักเดิมพันเสร็จสรรพตามกฎของเกมบาคาร่าอย่างเคร่งครัด

 

การนับแต้มไพ่

คาสิโนออนไลน์

ไพ่ที่มีเลขหน้าที่ตั้งแต่ 2 – 9 ให้นับแต้มได้ตามเลขที่ปรากฏ แต่สำหรับไพ่ Aces (เอซ) จะนับเป็น 1 แต้ม และไพ่ที่มีหน้า เช่น K Q J และไพ่ 10 จะมีค่าเท่ากับศูนย์

 

การคำนวณแต้มบนหน้าไพ่

ปกติแล้วเกมไพ่บาคาร่าจะแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ และมากที่สุดคือ 3 ใบ ในกรณีที่ต้องมีการจั่วเพิ่ม ให้นำเลขทั้งหมดมารวมกัน หากผลรวมเกิน 9 แต้ม ให้ตัดเลขหลักสิบออกเหลือเพียงแค่หลักหน่วย ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งเจ้ามือ (Banker) ได้ไพ่มาสองใบ คือ 7 กับ 9 รวมกันแล้วได้ 16 ให้นับว่าไพ่สองใบนั้นมีค่าแค่ 6 แต้ม เนื่องจากแต้มรวมสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 9 แต้ม นั่นเอง

 

กฎในการเล่นเกมไพ่บาคาร่า

สุภาสิตสำนวนไทยที่ว่า ‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ นั้นเป็นเรื่องจริงเสมอมา ผู้เล่นจำเป็นต้องรู้ข้อมูลรายละเอียดกฎกติการในการเล่นอย่างครบถ้วนก่อนเสมอ

สำรับไพ่ที่ใช้ในการแจกนั้นจะใช้ทั้งหมดถึง 8 สำรับด้วยกัน จะนำมาสับเพื่อให้ไพ่แตกก่อนจะนำมาใส่ถาดไพ่ที่เรียกว่า ชู (Shoe) ถึงจะพร้อมในการเริ่มแจกไพ่ ซึ่งอุปกรณ์นี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกมบาคาร่าเลยล่ะค่ะ

เว็บบาคาร่า

ในการแจกไพ่ผู้แจกไพ่จะเริ่มแจกไพ่ให้ฝั่งผู้เล่น (Player) ก่อน 1 ใบ จากนั้นจะแจกให้ฝั่งเจ้ามือ (Banker) 1 ใบ สลับกันไปจนครบฝั่งละ 2 ใบ แล้วจึงจะเปิดหน้าไพ่เพื่อคำนวณแต้ม โดยกฎจะแบ่งออกดังนี้

  1. ถ้าหากฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือมีแต้มรวมกันได้ 8-9 แต้ม จะเรียกว่า แนเซอรัล หมายความว่า หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้แต้มรวมกัน 8-9 แต้มแล้ว จะไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มอีกในรอบนั้น ๆ และตัดสินฝั่งแพ้-ชนะทันที ซึ่งฝั่งไหนมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้ม หรือมี 9 แต้มมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะไป
  2. หากฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวมกัน 6- 7 แต้ม ฝั่งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจั่วไพ่เพิ่ม ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าฝั่งเจ้ามือจะได้แต้มเท่าไหร่ หากฝั่งเจ้ามือได้ 6-7 แต้มเหมือนกันก็ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่มเช่นกัน สามารถตัดสินผลแพ้-ชนะได้เลย แต่หากเจ้ามือมีแต้มรวม 0-5 แต้ม จำเป็นต้องจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ ก่อนจะคำนวณแต้มหน้าไพ่แล้วจึงจะตัดสินผลแพ่-ชนะ
  3. แต่ถ้าหากฝั่งผู้เล่นมีแต้มรวมอยู่ที่ 0-5 แต้ม ฝั่งผู้เล่นต้องจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ เป็น 3 ใบ ตรงนี้จะมีกฎเพิ่มเติมคือ ทางฝั่งเจ้ามือจะจั่วไพ่เพิ่มเติมหรือไม่จั่วก็ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะซับซ้อนนิดหน่อย แต่สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ ซึ่งหากฝั่งเจ้ามือมีแต้มรวมอยู่ก่อนแล้วจากไพ่สองใบ คือ
  • 0-2 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วเพิ่มอีก 1 ใบ เช่นกัน
  • 3 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นไม่ใช่เลข 8
  • 4 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 2 – 7 แต้ม
  • 5 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 4 - 7 แต้ม
  • 6 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 6 – 7 แต้ม
  • 7 แต้ม ฝั่งเจ้ามือไม่จำเป็นต้องจั่วไพ่เพิ่ม

เมื่อทำตามข้อ 1-3 เสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถคำนวณแต้มกันได้เลย ซึ่งก็จะแบ่งการคำนวณจ่ายเงินรางวัลออกเป็นดังนี้

  1. หากท่านเดิมพันฝั่งผู้เล่น หรือ ฝั่งเจ้ามือไว้ หากฝั่งไหนได้แต้มมากกว่าฝั่งนั้นจะเป็นฝ่ายชนะในรอบนั้น ๆ แต่หากผลออกมาเสมอ ระบบก็จะคืนเงินที่ท่านลงเดิมพันไว้ในรอบนั้น ๆ ค่ะ
  2. หากท่านลงเดิมพันว่าเสมอ และมีผลออกมาว่าเสมอจริง ท่านที่ลงเดิมพันที่เสมอไว้ก็จะชนะและผู้เล่นที่ลงเดิมพันฝั่งอื่น ๆ จะแพ้ทั้งหมด
  3. หากเดิมพันว่าคู่ผู้เล่นจะชนะ และถ้าไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นออกแต้มมาเหมือนกัน ถือว่าท่านชนะในการเดิมพัน และผู้เล่นที่ลงฝั่งอื่น ๆ จะแพ้ทั้งหมด
  4. หากท่านเดิมพันว่าฝั่งคู่เจ้ามือชนะ และถ้าไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือออกแต้มมาเหมือนกัน ถือว่าท่านชนะในการเดิมพัน และผู้เล่นที่ลงฝั่งอื่น ๆ จะแพ้ทั้งหมด

 

กติกาในเกมไพ่บาคาร่าที่นักเดิมพันส่วนใหญ่ไม่ศึกษา หรือมองข้าม

แม้ว่าเกมเดิมพันไพ่บาคาร่าจะเป็นเกมที่ดูง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ทายว่าฝั่งไหนมีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะไป และอาจจะมีเสมอได้ในบางครั้ง ซึ่งผู้แจกไพ่จะเป็นผู้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎการเล่นเกมไพ่บาคาร่า ทั้งการแสดงไพ่ให้นักเดิมพันเห็น และการเลือกจั่วไพ่เพิ่มในแต่ละกรณี ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ไม่ยอมศึกษากฎกติกาการเล่นให้ดี มักจะเข้าใจผิดว่าถูกโกง หรือทำการล็อกแต้มเพื่อกินเงิน ซึ่งเหตการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์

 

อัตราต่อรองอ๊อด (Odds)

เมื่อเราทราบกติกาการเล่นแล้ว เรามาดูอัตราต่อรองที่เราจะได้ในการตัดสินแพ้ชนะในแต่ละรอบกันค่ะ ซึ่งอัตราต่อรองอ๊อด (Odds) ก็คือกำไรที่เราจะได้กลับคืนมาเมื่อเราเดิมพันชนะนั่นเองค่ะ

  1. หากลงเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player)

  • เมื่อฝั่งผู้เล่นชนะ ท่านจะได้เงินกลับมา 1 เท่า ยกตัวอย่างเช่น ลงเดิมพัน 100 บาท ท่านจะได้กลับมาเพิ่มอีก 100 บาท รวมเป็น 200 บาท
  • หากผู้เล่นแพ้ ท่านจะเสียเงินต้นที่ลงเดิมพันในรอบนั้น ๆ ทั้งหมด
  • หากผลออกมาว่าเสมอ ท่านจะได้เงินต้นกลับคืนมาทั้งหมด
  1. หากลงเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker)

  • เมื่อฝั่งเจ้ามือชนะ ท่านจะได้เงินกลับมา 0.95 เท่า หรือคิดเป็น 19/20 ยกตัวอย่างเช่น ลงเดิมพัน 100 บาท ท่านจะได้กลับมาเพิ่ม 95 บาท รวมเป็น 195 บาท เนื่องจากหากวางเดิมพันฝั่งเจ้ามือ จำเป็นต้องเสีย 5% ในการวางเดิมพันในรอบนั้น ๆ
  • หากเจ้ามือแพ้ ท่านจะเสียเงินต้นที่ลงเดิมพันในรอบนั้น ๆ ทั้งหมด
  • หากผลออกมาว่าเสมอ ท่านจะได้เงินต้นกลับคืนมาทั้งหมด
  1. หากลงเดิมพันว่าเสมอ (Tie)

  • หากผลออกมาว่าเสมอ ท่านจะได้เงินกลับมา 8 เท่า ยกตัวอย่างเช่น ลงเดิมพัน 100 บาท ท่านจะได้กลับมาเพิ่ม 800 บาท รวมเป็น 900 บาท
  • หากผลออกมาว่าไม่เสมอ ท่านจะเสียเงินต้นที่ลงเดิมพันในรอบนั้น ๆ ทั้งหมด
  1. หากลงเดิมพันว่าจะได้ไพ่คู่ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้เล่น (Player) หรือ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) การออกไพ่คู่หมายถึงการเดิมพันว่าไพ่ทั้ง 2 ใบนั้นจะออกหน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น A-A, 2-2, 3-3, J-J, K-K, หรือไพ่ใบอื่น ๆ ที่มีหน้าแต้มเดียวดัน

  • หากลงเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่น (Player) หรือ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะออกไพ่คู่ ท่านจะได้เงินกลับมา 11 เท่า ยกตัวอย่างเช่น ลงเดิมพัน 100 บาท ท่านจะได้กลับมาเพิ่ม 1100 บาท รวมกัน 1200 บาท
  • แต่ถ้าหากไม่ออกไพ่คู่ ท่านจะเสียเงินต้นที่ลงเดิมพันในรอบนั้น ๆ ทั้งหมด

 

สรุป

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ Lucabetkub เชื่อว่านักวางเดิมพันหน้าใหม่หลาย ๆ ท่าน จะเข้าใจถึงกฎกติการการเล่นเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์มากขึ้นแล้ว รวมไปถึงวิธีการเล่น อัตราต่อรองอ๊อด (Odds) และประวัติความเป็นมาของเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมและเก่าแก่มากที่สุดในโลก หากชื่นชอบบทความที่มีสาระ เกร็ดความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับคาสิโนออนไลน์ อย่าลืมติดตามบทความอื่น ๆ ของเรานะคะ

ติดต่อสอบถาม

บทความที่น่าสนใจ

Stake88 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่ให้บริการเกมบาคาร่าออนไลน์ และเกมวางเดิมพันทุกรูปแบบ ด้วยระบบฝาก-ถอน อัตโนมัติ 3 วินาที พร้อมเจ้าหน้าที่คอยซัพพอร์ทตลอด 24 ชั่วโมง
OFFICIAL PARTNER
ช่องทางการติดต่อ
ช่องทางการชำระเงิน
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบ
Copyright © 2023 Supported by